top of page
ค้นหา

สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ : เงินทุนที่ “ยืดหยุ่น–ปลอดภัย–เติบโตได้จริง”

  • รูปภาพนักเขียน: taweesup0088
    taweesup0088
  • 15 พ.ย.
  • ยาว 1 นาที
ree


ทำไมปี 2025 ธุรกิจแฟรนไชส์ถึงมาแรงที่สุดในรอบหลายปี?

แฟรนไชส์กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ เพราะเป็นโมเดลที่ลดความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการอย่างมาก คุณไม่ต้องเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ ไม่ต้องทดลองสูตร ไม่ต้องสร้างแบรนด์เองทั้งหมด และใช้เวลาเติบโตสั้นกว่าแบบเปิดร้านทั่วไป

แต่มีจุดสำคัญหนึ่งที่ทุกคนต้องเผชิญเหมือนกัน คือ “เงินทุนก้อนแรก”

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร เครื่องดื่ม คาเฟ่ สินค้าแบรนด์ ร้านมินิมาร์ท ร้านบริการ หรือธุรกิจแฟรนไชส์รูปแบบใหม่ ๆ อย่างคาร์แคร์ ลอนดรี้ ออโตเมติก หรือคลินิกเสริมความงาม ล้วนต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นจำนวนหนึ่ง

และเจ้าของธุรกิจจำนวนมากพบว่า…

เงินทุนเริ่มต้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ “เงินทุนหมุนเวียนหลังเปิดร้าน” ต่างหากที่สำคัญกว่า

เพราะหลังเปิดร้าน คุณยังต้องมีทุนสำรองสำหรับ:

  • ซื้อสต๊อกสินค้า

  • ตกแต่งเพิ่ม

  • จ้างพนักงาน

  • การตลาดช่วงเปิดร้าน

  • อุปกรณ์เสริม

  • ควบคุมกระแสเงินสดช่วงแรก

บางธุรกิจต้องใช้เงินทุนรวม 2–3 เท่าของค่าซื้อแฟรนไชส์จริง ๆ

ตรงนี้เองที่ “สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์” เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ


1. สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร?

สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Business Loan) คือเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจโดยการซื้อแฟรนไชส์ หรือเจ้าของแฟรนไชส์ที่ต้องการขยายสาขา

โครงสร้างของสินเชื่อประเภทนี้ถูกออกแบบเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์โดยเฉพาะ เช่น:

  • วงเงินยืดหยุ่นตามขนาดแฟรนไชส์

  • ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์เต็มจำนวน

  • อนุมัติรวดเร็วกว่าเงินกู้รูปแบบอื่น

  • ใช้เข้าซื้อแฟรนไชส์หรือทุนหมุนต่อได้

  • เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการความคล่องตัว


2. ผู้ประกอบการจำนวนมากเลือกใช้สินเชื่อแทนการใช้เงินเก็บทั้งหมด?

แม้หลายคนจะมีเงินเก็บเพียงพอ แต่ผู้ประกอบการที่คิดเป็นส่วนใหญ่กลับเลือกใช้ “สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์” เพราะเหตุผลเหล่านี้:

1) เงินสดต้องเก็บไว้เป็นทุนสำรองฉุกเฉิน

ธุรกิจแฟรนไชส์มีต้นทุนแฝงเสมอ เช่น:

  • ค่าเปิดร้านเกินกว่าที่ประเมิน

  • ค่าพนักงานช่วงแรก

  • ค่าเช่าล่วงหน้า

  • ค่าอุปกรณ์เสริม

  • ค่าตกแต่งเพิ่ม

ถ้าใช้เงินเก็บทั้งหมด ธุรกิจจะเสี่ยงทันที

2) เงินกู้ทำให้เริ่มธุรกิจได้เร็ว ไม่ต้องรอเก็บเงินเพิ่ม

ตลาดบางอย่างต้อง “เข้าให้ทันช่วง” เช่น:

  • คาเฟ่ในทำเลกำลังเติบโต

  • ร้านเครื่องดื่มตามคอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่

  • แฟรนไชส์อาหารที่กำลังเป็นกระแส

โอกาสทางธุรกิจไม่รอใคร

3) กระจายความเสี่ยงทางการเงิน

การเอาเงินเก็บทั้งหมดไปเทใส่ธุรกิจเดียวเป็นความเสี่ยงสูงผู้ประกอบการยุคใหม่จึงใช้สินเชื่อเพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ผูกติดกับเงินสดทั้งหมดของตนเอง

4) ทำให้บริหารสภาพคล่องได้ดีขึ้น

เงินหมุนเวียน (Working Capital) สำคัญกว่าทุนเริ่มต้นหลายเท่า ธุรกิจจะไปต่อได้ ต้องมีเงินหมุนอย่างต่อเนื่อง


3. ธุรกิจแฟรนไชส์แบบไหน “เหมาะ” กับการใช้สินเชื่อที่สุด?

จากประสบการณ์การให้คำปรึกษาธุรกิจ พบว่าแฟรนไชส์กลุ่มนี้ใช้สินเชื่อแล้ว “เติบโตดีเป็นพิเศษ”

1) แฟรนไชส์อาหาร/เครื่องดื่ม

เช่น โกโก้ ชานม กาแฟ แฟรนไชส์อาหารจานด่วน เพราะ:

  • ทำเลดีช่วยเพิ่มยอด

  • มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนคงที่

  • มีโอกาสขยายสาขาได้ไว

2) แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ/ร้านชำยุคใหม่

หมุนเงินเร็ว เหมาะกับสินเชื่อหมุนเวียนมาก ๆ

3) แฟรนไชส์บริการ (คาร์แคร์ ซักอบรีด คลินิก ความงาม)

รายได้ดี ควบคุมต้นทุนง่าย และมีฐานลูกค้าคงที่

4) แฟรนไชส์สินค้าบริโภค

เช่น เบเกอรี่ ขนม ของกินเล่น สินค้าเหล่านี้มีรอบเงินเร็วกว่า 90% ของธุรกิจอื่น

5) ผู้ที่ต้องการขยายสาขาแฟรนไชส์

การเปิดสาขา 2–3–4 ทำให้แบรนด์แข็งแรงขึ้น และรายได้หลายช่องทางช่วยแบ่งความเสี่ยง


4. รายจ่ายที่ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ต้องเตรียมเมื่อเริ่มต้น

หลายคนคิดว่าค่าแฟรนไชส์คือค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่จริง ๆ แล้วมีค่าใช้จ่ายแฝงอีกมาก

รายการที่ต้องใช้เงินทุน เช่น:

  • ค่าแฟรนไชส์หลัก

  • ค่ามัดจำพื้นที่

  • ค่าเช่าล่วงหน้า

  • ค่าตกแต่งร้าน

  • ค่าป้ายร้าน

  • ค่าอุปกรณ์

  • ค่าพนักงาน

  • ค่าการตลาดช่วง Soft Opening

  • ค่าสต๊อกสินค้าเริ่มต้น

  • ทุนสำรองอย่างน้อย 3 เดือน

ทั้งหมดนี้ทำให้เงินที่ต้องใช้ “เกินกว่าค่าซื้อแฟรนไชส์ 1–3 เท่า” เสมอ

นี่คือเหตุผลที่สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์เหมาะกับเจ้าของกิจการอย่างมาก


5. สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์มีกี่ประเภท? ใช้อะไรได้บ้าง?

1) สินเชื่อเพื่อเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ (Start-up Franchise Loan)

ใช้สำหรับ:

  • ซื้อแฟรนไชส์

  • ตกแต่งร้าน

  • ซื้ออุปกรณ์

  • เตรียมสต๊อก

เหมาะกับผู้เริ่มต้นมากที่สุด

2) สินเชื่อหมุนเวียนสำหรับแฟรนไชส์ (Working Capital Loan)

ใช้สำหรับหมุนระหว่างที่รายรับยังไม่คงที่ เช่น:

  • ค่าพนักงาน

  • ค่าของสด

  • ค่าเช่า

  • ค่าใช้จ่ายรายวัน

3) วงเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์

เหมาะสำหรับ:

  • ยอดขายตกช่วงฤดูกาล

  • ต้องเพิ่มสต๊อก

  • ต้องปรับร้านด่วน

  • ต้องซื้อวัตถุดิบเพิ่มแบบเร่งด่วน

4) สินเชื่อขยายสาขา

ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการ:

  • เปิดสาขาเพิ่ม

  • เพิ่มพื้นที่ร้าน

  • เพิ่มเครื่องจักรหรืออุปกรณ์

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มี 2–5 สาขามักให้ผลตอบแทนดีที่สุด

6. เงื่อนไขเอกสารที่เจ้าของธุรกิจควรเตรียม

แม้ไม่ต้องมีเอกสารเยอะเท่าเงินกู้ธนาคาร แต่เจ้าของธุรกิจควรเตรียม:

  • สำเนาบัตรประชาชน

  • ทะเบียนบ้าน

  • Statement 6 เดือน

  • สัญญาแฟรนไชส์

ใครเตรียมเอกสารชัดเจน โอกาสอนุมัติเร็วกว่าแน่นอน


7. เคล็ดลับ “ยื่นกู้แฟรนไชส์ให้ผ่าน” แบบที่ผู้ประกอบการมืออาชีพใช้กัน

  1. เลือกแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงและระบบชัดเจน ผู้ให้สินเชื่อเชื่อมั่นมากกว่า

  2. มี Statement ที่เงินหมุนสม่ำเสมอ ไม่ต้องมียอดสูงก็ได้ แต่ห้าม “เงียบ”

  3. เสนอแผนธุรกิจสั้น ๆ แต่ชัดเจน ดูเป็นมืออาชีพ

  4. ทำเลดี = โอกาสอนุมัติสูงขึ้น

  5. แสดงความสามารถในการบริหารเงินสด เช่น ไม่มีหนี้เสีย


สรุป: สินเชื่อแฟรนไชส์คือโอกาสเติบโตของผู้ประกอบการยุคใหม่

ธุรกิจแฟรนไชส์คือโมเดลที่ลดความเสี่ยง และเหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้แบบมีระบบ มีแบรนด์ช่วยสนับสนุน และมีโอกาสเติบโตระยะยาว

แต่หัวใจสำคัญคือ เงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอและสภาพคล่องที่มั่นคง

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาข้อมูลสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ หรือสนใจทางเลือกเงินทุนที่ “ยืดหยุ่น–อนุมัติไว–เหมาะกับผู้ประกอบการจริง” สามารถศึกษาจากผู้ให้บริการที่เข้าใจ SME และธุรกิจแฟรนไชส์จริง เช่น Thawisup ซึ่งให้คำแนะนำแบบที่ปรึกษา และตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจที่ต้องการทุนเพื่อเติบโตอย่างมั่นคงค่ะ


ree
ree

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page